เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 1 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ประเชิญ อุ่นแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ รับแจ้งเหตุรถกระบะ ชนกับรถจักรยานยนต์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย ที่ถนนบ้านห้วยจันทร์ – บ้านน้ำมุด หมู่ 4 แยกซำปีกา ตำบลห้วยจันทร์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ หลังทราบเรื่องได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน แล้วรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะตอนเดียว ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ผก 360 ศรีสะเกษ เสียหลักอยู่ข้างทาง และชนกับต้นยางพารา สภาพรถกระโปรงหน้าพังยับ ชี้นส่วนรถกระบะกระจายทั่วบริเวณ คนขับ ทราบชื่อภายหลังคือ นายลำพึง อุ่นแก้ว อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 ม.15 ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าตัวได้หลบหนีไป
ใกล้กัน พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 สีแดง-ขาว หมายเลขทะเบียน 1 กฐ 2175 ศรีสะเกษ สภาพรถพังยับเยิน และร่างผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ทราบชื่อ คือนางสาวภัทรารัตน์ อุ่นแก้ว อายุ 22 ปี และ เด็กชายวรพล อุ่นแก้ว อายุ 6 ปี ทั้งคู่อยู่บ้านเลขที่ 266 หมู่ 6 ตำบลกระหวัน อำเภอขุนหาญ ส่วนผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อ คือ เด็กชายณัฐพัฒน์ อุ่นแก้ว อายุ 7 ปี อยู่บ้านเลขที่ 218 หมู่ 6 ตำบลกระหวัน อำเภอขุนหาญ เจ้าหน้าที่กู้ภัย นำตัวส่งโรงพยาบาลขุนหาญ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการสอบสวนเบื้องต้น รถกระบะและรถจักรยานยนต์ ขับมาในทิศทางเดียวกัน จากนั้นเมื่อถึงทางแยก รถจักรยานยนต์ได้จอดรถเพื่อที่จะเลี้ยวขวา แต่ปรากฏว่า รถกระบะ ได้พุ่งเข้ามาชนกับรถจักรยานยนต์ ก่อนร่างของทั้ง 3 คน กระเด็นโดยที่ นางสาวภัทรารัตน์ ผู้เสียชีวิต และเด็กชายวรพล ผู้บาดเจ็บ กระเด็นไปอีกฝั่ง ส่วนร่างเด็กชายวรพล นั้น ถูกกระบะเหยียบทับร่างติดอยู่ใต้ท้องรถ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ นายลำพึง คนขับรถกระบะได้อาศัยรถซาเล้งชาวบ้าน แล้วหลบหนีไป ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ โรงพยาบาลขุนหาญ เพื่อสอบถามข้อมูลกับ นายแสงระวี อุ่นแก้ว อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นพ่อของเด็กชายวรพล ที่อยู่ในอาการโศรกเศร้าเสียใจน้ำตาคลอ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นางสาววรารัตน์ กำลังเรียน ปวส. ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยการอาชีพขุนหาญ เด็กชายวรพล กำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ส่วนเด็กชายณัฐพัชร์กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.1 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลกระหวัน อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน ได้ขี่จักรยานยนต์เพื่อมาซื้อขนมกิน โดยมีนางสาวภัทรารัตน์เป็นผู้ขับ ก่อนที่จะกลับไปช่วยตนทำสวนต่อ จนกระทั่งมาทราบเรื่องว่าถูกรถชนเสียชีวิต ตนจึงรีบมาดู และได้พูดคุยกับนายลำพึง คนขับกระบะ ซึ่งเจ้าตัวก็รับสารภาพเมาสุรา ก่อนที่จะมาเกิดเหตุในครั้งนี้ ซึ่งตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฏหมายอย่างเต็มที่ จากการสอบถามนายลำพึง ผู้ขับกระบะที่ก่อเหตุ ซึ่งกำลังอยู่ในอาการมึนเมา ได้พูดจาวกไปวนมา ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้รับประทานอาหารและตั้งวงดื่มสุราขาวกับเพื่อน โดยจำไม่ได้ว่าดื่มหมดไปกี่ขวด หลังจากทานอาหารเสร็จ จนได้ขับรถออกมาเพื่อไปทำธุระ แต่ในขณะที่เกิดเหตุนั้น ตนไม่มีสติ และจำไม่ได้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ตนเองก็ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหักที่บริเวณไหล่ขวา และขณะนี้ตนอยู่ในอาการเมามากจึงไม่สารมารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ ภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้านค้าที่ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ได้มาซื้อขนมและเครื่องดื่มก่อนจะกลับไปช่วยครอบครัวทำสวนต่อ ซึ่งภาพเหตุการณ์ เผยให้เห็นวินาทีที่เด็กทั้ง 3 คน ขับรถออกไปจากร้าน และรถกระบะได้ขับขี่มาด้วยความเร็วสูง ชนเข้ากับรถจักรยานยนต์อย่างจัง จนเกิดเสียงดัง ทำให้ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ต่างกรีดร้องด้วยความตกใจและรีบวิ่งเข้าไปดูที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวและนำมาตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งผลการตรวจมีปริมาณถึง 127 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และทำการตรวจสารเสพติด พบว่ามีปัสสาวะเป็นสีม่วง โดยในเบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขับรถในขณะเมาสุรา และเป็นผู้ขับขี่เสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย