วันนี้ (1 พ.ย. 2567) ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายธรรมราช สาระปัญญา หรือ ทนายธรรมราช ยืนแถลงข่าวจะแจ้งความดำเนินคดีกับ อาจารย์เบียร์คนตื่นธรรม ในความผิดเหยียดหยามศาสนาตามมาตรา 206 โดยระหว่างที่ให้สัมภาษณ์อยู่นั้น มีชายคนหนึ่งบุกเข้ามาตบทำร้ายร่างกายทนายธรรมราช โดยใช้มือตบเข้าที่กลางหน้าอย่างแรงเสียงดังสนั่น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเข้าระงับเหตุ แต่ระหว่างที่ระงับเหตุ ก็มีชายอีกคนหนึ่งบุกเข้าไปล็อกคอทนายธรรมราช ก่อนจะชกต่อยไปที่บริเวณใบหน้าทนายธรรมราชอีกครั้ง จนหน้าเขียว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาแยกทั้งสองออกจากกัน และนำตัวผู้ก่อเหตุเข้าไปควบคุมตัวสอบปากคำ
ทางด้าน ทนายธรรมราช เปิดเผยว่า วันนี้จะมาแจ้งความกับคนตื่นธรรม ในความผิดเหยียดหยามศาสนาตามมาตรา 206 แต่มาถูกทำร้าย ตนจะดำเนินคดีกับคนที่มาตบและต่อยผมให้ถึงที่สุด จะเป็นบทเรียนในชีวิตเขาเอง ไม่คิดว่าสถานที่ราชการ กองบังคับการตำรวจกองปราบจะมีคนมาทำร้าย
มองว่าเป็นพฤติกรรมหมาลอบกัด หน้าตัวเมีย เพราะลอบมาทำร้ายจากด้านหลัง ไม่ทราบมีการจ้างมาหรือไม่ ยังไม่สงสัยกลุ่มไหนเป็นพิเศษ พฤติกรรมรุนแรงแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น จากนี้จะเดินหน้าต่อผมไม่กลัวว่าแบล็กจะเป็นใคร ผมไม่กลัวไม่กังวลการใช้ชีวิตต่อไป เพราะที่ผ่านเคยโดนลูกปืนมาก่อนแล้ว
จากการสอบปากคำของนายจารุเวศ อายุ 28 ปี ผู้ก่อเหตุ ยอมรับสารภาพว่า ลงมือชกต่อยทนายธรรมราช เพียงคนเดียวส่วนเพื่อนอีก 2 คน ไม่ได้ร่วมก่อเหตุแต่อย่างใด แค่มาด้วยกัน ส่วนสาเหตุที่ลงมือเพราะก่อนหน้านี้เคยเห็นทนายธรรมราช โพสต์ข้อความพาดพิงเรื่องเกี่ยวกับศาสนามุสลิม
ด้วยความที่ตนเองมีภรรยาเป็นคนนับถือศาสนาอิสลาม จึงเกิดความไม่พอใจ เลยตั้งใจมาวันนี้เพื่อจะมาถามทนายธรรมราช ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ทนายธรรมราช ไม่ยอมตอบ จึงเกิดโมโหตัดสินใจทำร้ายร่างกายทนายธรรมราชดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน