ช่างกิต พูดแล้ว เรื่องโทรศัพท์ของใหม่ ที่ก่อนหน้านั้นยังไม่ยอมปริปากพูดถึง

Author:

จากกรณีอุ้มฆ่ า นายใหม่หนุ่มโรงงาน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 จากการเข้าไปสอบปากคำ “ช่างกิต” ในเรือนจำ ยังยืนยันว่า สาวพร มีส่วนเกี่ยวข้องในการอุ้มใหม่ หนุ่มโรงงาน ส่วนมูลเหตุที่ ตัดสินใจทำลงไปนั้น เพราะอารมณ์ชั่ววูบ คลั่งรัก อยากได้สาวพรมาไว้ข้างกายเพียงแค่คนเดียว ซึ่งช่างกิตทราบว่าใหม่ เป็นสามีของสาวพร เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดความไม่พอใจ และตัดสินใจไปก่อเหตุ

โดยวันก่อนที่จะก่อเหตุหนึ่งวัน ได้มีการไปดูลาดเลากับหลาน แต่หลานไม่ทราบว่าไปดู เพื่ออะไร รู้เพียงแค่ว่าไปดูรถที่หลุดจำนำ ที่ผ่านมา ยอมรับว่า ทราบว่า สาวพรเป็นคนเจ้าชู้ แต่เพราะสาวพรดูแลดีอยู่ด้วยกันตลอด ทำให้รักสาวพรมาก และอยากได้ไว้ในครอบครอง วันนี้ช่างกิต ทราบเรื่องสาวพรมีโลกหลายใบแล้ว รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป บอกว่าตนเองไม่น่าทำเลย ไม่น่าเอาชีวิตไปแลกกับผู้หญิงแบบนี้ เมื่อถามว่าอยากจะฝากอะไรถึงสาวพรหรือไม่ช่างกิตบอกว่าไม่ขอฝากอะไรไปถึง ขอให้จบกัน แต่เพียงเท่านี้

ส่วนแชทที่มีการแชทกับสาวพรหลังหายตัวไปนั้นช่างกิตยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นคนพิมพ์และไม่ได้เป็นคนเอามือถือไปทิ้งหรือพยามทำลายหลักฐาน แหล่งข่าวยังบอกอีกว่า จากการสอบสวนพบว่ามีบุคคลที่มีส่วนช่วยในการมัดมือมัดเท้าใหม่มากกว่าหนึ่งคน โดยมีการมัดก่อนที่จะแยกย้าย ส่วนจะเป็นใครนั้นยังบอกไม่ได้ รวมถึงข่าวลือเรื่อง DNA ยังไม่ใช่ข้อเท็จจริง ทั้งนี้ จากการสอบสวน นิวหนึ่งในผู้ต้องหา มีความชัดเจนว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดใดกับการก่อเหตุ ภาพที่ปรากฏว่าอยู่ในรถขณะอุ้มใหม่นั้นเป็นเพียงการตามแฟนมาเท่านั้น

และก่อนที่จะสอบช่างกิต ได้สอบสาวพรไปก่อนแล้ว พลตำรวจตรีนเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.ฉะเชิงเทรา ได้เรียกตัวน้องพร มาสอบปากคำ โดยประเด็นที่เรียกมาสอบปากคำ เป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของน้องพร และประเด็นอื่น ๆ อีกที่ตำรวจยังมีความสงสัย แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำน้องพร นานเกือบ 3 ชั่วโมง จากนั้นจึงปล่อยให้เดินทางกลับ โดยไม่มีการควบคุมตัว ส่วนภาพรวมของคดีขณะนี้ ตำรวจเห็นภาพของคดีมากขึ้น ยืนยันว่าตำรวจยังไม่สรุปจบ ว่านายกิตลงมือฆ่านายใหม่คนเดียว เพราะยังมีหลักฐานและข้อสงสัยอื่น ๆ ที่ทำให้เชื่อว่านายกิต น่าจะมีคนช่วยเหลือ โดยเฉพาะการมัดมือมัดเท้านายใหม่

ซึ่งนายกิตไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียว ขณะนี้ชุดทำงานรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ จากกองพิสูจน์หลักฐาน เช่นคราบเลือด และรอยกระเซ็นของเลือดที่เจอในรถมิราจ สีแดง ที่นายกิตเป็นคนขับวันเกิดเหตุ ผลการกู้ข้อมูลโทรศัพท์มือถือของน้องพร ซึ่งหากได้หลักฐานทุกอย่างครบ ก็ทำให้ดำเนินคดีกับคนที่ช่วยเหลือนายกิต ในการลงมือฆ่านายใหม่ได้ และหลังจากนี้ตนจะเข้าไปคุยกับนายกิต ที่เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ซึ่งตนมีหลายคำถามที่จะสอบถามนายกิต แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนประเด็นที่สังคมตั้งคำถามว่า ทำไมตำรวจถึงไม่แจ้งข้อหาน้องพร

ขอยืนยันว่าตำรวจทำงานตามพยานหลักฐาน ซึ่งตอนนี้หลักฐานยังเชื่อมโยงไม่ถึงก็ไม่สามารถแจ้งข้อหาได้ แต่ขอยืนยันว่าคดีนี้ตำรวจทำงานและตรวจสอบทุกมิติ หากใครร่วมกระทำผิด ก็ต้องถูกดำเนินคดี มีรายงานว่า เมื่อคืนนี้ตำรวจ ได้เรียกตัวน้องพร มาสอบปากคำ คือเรื่องของสายโทรศัพท์ของชายปริศนาที่โทรเข้ามาหาน้องพร

ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 28 มกราคม โดยหลังจากที่น้องพร ได้รับข้อความจากนายใหม่ ว่าขอเลิกกันเพราะทำผู้หญิงท้อง ต่อมาน้องพร ได้พยายามติดต่อไปหานายใหม่ แต่ติดต่อไม่ได้ จึงขี่มอเตอร์ไซด์ออกตามหา ในช่วงเวลาดังกล่าวน้องพร ได้โทรศัพท์ไปหาชายลึกลับคนหนึ่ง และต่อมาชายลึกลับคนนี้ ได้โทรศัพท์กลับมาหาน้องพร และยังพบว่าชายลึกลับคนนี้ยังได้โทรศัพท์หานายใหม่ด้วย

ทั้งนี้จากการสอบปากคำน้องพร ให้การว่า ชายลึกลับที่น้องพรโทรหา คือนาย นอ. ซึ่งเพื่อนร่วมงานซึ่งทำงานแผนกเดียวกันกับนายใหม่ โดยหลังจากที่ตนติดต่อนายใหม่ไม่ได้ จึงเข้าไปในเฟซบุ๊คของนายใหม่ จนพบว่าชายนาย นอ. เป็นเพื่อนสนิทของนายใหม่ ตนจึงได้โทรศัพท์ไปหานาย นอ. เพื่อจะสอบถามว่านายใหม่มาทำงานหรือไม่ แต่ตอนนั้น นาย นอ. ไม่รับสาย จากนั้นสักพัก นาย นอ. ได้โทรศัพท์กลับมาหาน้องพร และบอกว่าติดต่อนายใหม่ไม่ได้เช่นกัน โดยหลังจากนี้ตำรวจจะเรียก นาย นอ. มาสอบปากคำเพิ่ม ในฐานะพยาน

ทั้งนี้จากการสอบปากคำน้องพร พบว่าน้องพรมีอาการเครียดอย่างมาก บางครั้งก็ร้องไห้ และพูดว่าอยากจะจบชีวิตตัวเอง เนื่องจากถูกสังคมประนาม ถูกสังคมพิภากษาไปแล้วว่าเป็นคนไม่ดี ทั้งเรื่องความรักที่มีโลกหลายใบ และถูกจับไปโยงว่า มีส่วนร่วมกับนายกิตวางแผนฆ่านายใหม่ โดยน้องพร ยังย้ำว่าไม่มีส่วนรู้เห็นหรือวางแผนในการฆ่านายใหม่ และสุดท้ายหากถูกตำรวจแจ้งข้อหาก็พร้อมที่จะต่อสู้คดี โดยสิ่งที่น้องพรกังวลที่สุดคือความรู้สึกของคนในครอบครัว โดยเฉพาะลูก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *