เป็นบอสดาราคนแรกที่ออกมาเคลื่อนไหวออก สำหรับ นักแสดงรุ่นใหญ่ แซม ยุรนันท์ หลังจากมีประเด็นดราม่าต่างๆในโชเชียล กรณีของธุรกิจที่ร่วมเป็น โดย แซม ยุรนันท์ ขอออกมาแถลงชี้แจงผ่านไลฟ์สดของสำนักข้่าวที่จ่อไมค์สัมภาษณ์ไว้ว่า
ไม่สามารถตอบในนาม บริษัท ได้ พูดแทนไม่ได้ เพราะเข้ามาอยู่ไม่ถึงปี ที่ได้เข้ามาอยู่เพราะเรียนหลักสูตรเดียวกันกับบอสพอล เลยรู้จักกัน ได้ไปเยี่ยมธุรกิจ ก็รู้สึกว้าว มันเป็นธุรกิจขายของออนไลน์ที่มีระบบชัดเจน รู้สึกว่าน่าสนใจ เค้าเลยชวนไปดูในส่วนสินค้า ให้เติบโตไปในระดับนานาชาติ เพราะเราทำคลินิก โรงพยาบาล
เรื่องตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ ให้เพื่อให้เกียรติ แต่ไม่ได้ให้อำนาจในการตัดสินใจ เรียกว่าเป็นที่ปรึกษา และอีกหน้าที่คือให้คำแนะนำ ข้อมูลในคลาส ในช่วงวันอาทิตย์ ในบริษัทก็มีหลายห้องเรียน แต่ก็บอกเสมอนะว่า ผมให้ข้อมูลนะ ส่วนเรื่องดำเนินธุรกิจเป็นเรื่องส่วนบุคคล
ในแต่ละเดือนก็มีงานมอบรางวัลอะไรแบบนี้ อุดมไปด้วยคนที่มีความหวัง มีความสุข ใครประสบความสำเร็จเค้าก็ภูมิใจ เราก็รู้สึกตัวใหญ่ไปด้วย เค้ามาขอบคุณเราที่ให้โอกาสที่ดีกับเค้า พลิกชีวิตเค้า
เพิ่งมาเห็นข่าวเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว ทำให้เราเห็นอีกมุมว่ามีมุมนี้ด้วยหรอ เราไม่เคยเห็น ปกติเราจะเห็นแต่เรื่องดีๆ พอเห็นอีกมุมนึง ที่ซื้อของแล้วขายไม่ได้ จนล้มละลาย ฆ่าตัวตาย ทำให้เราตกใจมาก ทางบริษัท The Icon ก็ต้องเอากลับไปคิด อย่าชื่นชมแต่คนที่ขายดี คนที่ขายไม่ได้ เค้ามีปัญหาอะไร สินค้า ราคา ไม่ได้หรอ บริษัทต้องเอากลับไปคิดต่อ
ทางเราก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเราไม่รู้เรื่องดีเทลอะไรต่างๆ ทางเราก็มีส่วนเพราะเราดูเรื่องสินค้า บางคนที่เข้ามาเพราะเชื่อเรา แต่ความรับผิดชอบของเราอะ คือแค่ไหน ใครที่เดือดร้อน ทางบริษัทก็ควรเข้าไปช่วยเหลือ ทางเราก็โยนเรื่องนี้ถามบริษัทไปให้แล้ว ทางบริษัทก็ไม่ทราบว่ามีคนฆ่าตัวตาย
ใครที่มองว่าธุรกิจหลอกหลวง อยากรู้ว่าหลอกหลวงยังไง คือปกติเราเป็นคนระวังตัวมาก การที่จะรับเป็นพรีเซนเตอร์แต่ละตัว เราคิดว่ามันเหมาะกับเราหรือเปล่า ได้ใช้ ได้ลอง ผ่าน อย. ผ่านกฎหมายหรือเปล่า ตอนเข้ามาอยู่ก็ตรวจสอบแล้วว่าทำอะไร ใครเป็นผู้ถือหุ้นบ้าง ก็ดูละเอียดมาก ไม่อยากพลาด ซึ่งจากที่ดูมันไม่ใช่แชร์ลูกโซ่
ถ้าข้อกล่าวหาที่บอกว่าหลอกลวงเป็นเรื่องจริง ก็ควรหาหลักฐานให้เจอ ไม่งั้นจะเอาผิดใครไม่ได้ ทางเราก็ถามทางบริษัท เค้าก็แจ้งว่าเค้าจะแถลงข่าว เราก็ได้เสนอแนะไป แต่ตัวเราบริสุทธิ์ใจจริงๆ ที่จะตอบ ทางบริษัทยืนยันไม่ได้ทำอะไรผิด สินค้า ราคา การตลาด การรับผิดชอบต่อสังคม ทุกอย่างถูกต้อง
การเยียวยาผู้เสียหาย ว่าจะทำอย่างไรดี เอาคนที่ขายเก่งมาช่วยไหม หรือทางพรีเซ็นเตอร์ช่วยไลฟ์ขาย เราก็เสนอไป แต่บริษัทก็เป็นคนเคาะอยู่ดี แต่เชื่อว่ามีทางออกร่วมกัน จะได้รู้ว่าระบบตัวแทน ถ้ามีคนขายมากกว่าคนซื้อจะทำยังไง เพราะตอนนี้คนขายเยอะจริงๆ และคนมีกำลังซื้อน้อยลง เพราะเศรษฐกิจโลกที่มันถดถอยด้วย เจอภัยธรรมชาติ
บางคนตุนสินค้ามานาน เราจะช่วยเค้ายังไง ไลฟ์ขายให้ หรือคืนได้ไหม ส่วนตัวเราก็อยากให้คืนได้ แต่เราตอบแทนบริษัทไม่ได้ ก็อยากให้จบด้วยดี จู่ๆ ก็กลายเป็นจำเลยสังคมว่าร่ำรวยผิดปกติ ตั้งแต่อยู่มา สินค้าก็ยังถูกต้องตามกฎหมาย ผลตอนนี้คือไม่ใช่เรื่องของสินค้า มันคือขายของไม่ได้
เราก็ได้แต่รับฟัง แต่ทำอะไรให้ไม่ได้ ก็ได้แค่นำไปเสนอบริษัท แต่เค้าจะเลือกทำอะไรเราก็ไม่สามารถรับปากได้
ไม่กลัวอะไร เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้เงินจากสินค้าตัวไหนที่เราดูแล เราจะได้ % จากยอดขาย ทางบริษัทก็จะโชว์ว่าเดือนนี้ขายอะไรได้กี่ชิ้น ไม่มีหุ้น ไม่มีส่วนกำหนดทิศทางของบริษัท ตัวบอสพอลก็รู้สึกเสียใจมาก เค้าก็อยากช่วยเหลือ แต่เราไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไร