รังแกกันเกิน! เจ้าของสุดงง เปิดร้านอาหาร โดนตำรวจโทรขอเงินรายเดือนแลกกับความสงบ ทั้งที่ร้านถูกต้องทุกอย่าง พอปฏิเสธโดนลงตรวจถี่ยิบ

Author:

จากกรณีเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ได้นำคลิปเสียงที่คุยโทรศัพท์ ซึ่งปลายอ้างตัวเป็นสารวัตร มีการ พูดคุยในลักษณะ โทรมาเจรจาขอเก็บเดือนละ 1,000 บาท ทุกเดือน เพื่อแลกกับการที่ไม่ให้เจ้าหน้าที่มาตรวจรบกวน ในคลิปมีการพูดถึง ท่านผู้การจังหวัด มีพวกนักบินที่เป็นหน่วยของนู้นนี่นั่น ต้องดูแลหน่วยเฉพาะกิจ และหน่วยงานต่างๆ ซึ่งใช้เวลาคุยกันสักพัก ทางชายที่อ้างตัวเป็นสารวัตร ก็ให้ข้อเสนอค่าตู้แดง 500 บาทและของสารวัตร 1,000 บาท ซึ่งปลายสายที่เป็นผู้จัดการร้าน จึงแจ้งว่า เดี๋ยวขอคุยกับเพื่อนก่อน เพราะต้องใช้เงินร้าน

ล่าสุด วันที่ 6 พ.ค. 2568 นางสาวนุ่น อายุ 33 ปี หุ้นส่วนและผู้จัดการร้านอาหารดังกล่าว ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อระบุว่า ตนเองกับเพื่อนได้มาเปิดร้านอาหาร ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2567 ร้านเปิด 17.00 – 24.00 เป็นร้านอาหาร ขายยำ ทุกเมนู 79 บาท มีดนตรีโฟร์ดเดี่ยว เล่นถึง 21.30 น. ครัวปิด 23.00 น. และมีการขออนุญาตถูกต้อง มีใบอนุญาติจำหน่ายสุรา

ต่อมา ช่วงกลางเดือนมกราคม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจที่ร้าน ขอดูใบอนุญาตในการค้าขาย ซึ่งตนเองก็ให้ดู ตามปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้มีชายซึ่งอ้างตัวเป็นสารวัตรโทรเข้ามา จากนั้นก็พูดคุยถึงเรื่องการเปิดร้านและเรียกขอเก็บในราคา 1,000 บาท ตนเองมีการพูดคุยต่อรองว่ามีคนร้องเรียนหรือ มีอะไรจะให้หนูทำยังไง

ซึ่งทางชายดังกล่าวที่อ้างตัวเป็นสารวัตรก็อธิบาย ตามคลิปโดยให้เหตุผลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาลงนั้น เป็นชุดลูกน้องของตนเอง ซึ่งส่งให้มาลงตรวจ จากนั้นก็อธิบายว่า หากมีการจ่ายก็จะหลีกเลี่ยง หากมีอะไรเกิดขึ้น ตนเองจึงพยายามพูดคุยและปรึกษากับเพื่อน จึงให้อัดคลิปและบันทึกเสียงไว้ ตนเองมองว่า ร้านของตนเองเป็นร้านอาหารทั่วไป ไม่จำเป็นต้องจ่าย เพราะมีการอนุญาตค้าขายปกติ

จนกระทั่งตนเองและเพื่อนไม่ยินยอมจ่ายเงินให้กับชายที่อ้างตัวเป็นสารวัตร มักจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตำรวจ หน่วยงานของรัฐเข้ามาตรวจที่ร้านของตนเองบ่อยๆ ตนเองมองว่า เป็นลักษณะของการถูกกลั่นแกล้ง เพราะตนเองไม่ยอมจ่าย การที่เจ้าหน้าที่พากันมาตรวจที่ร้านของตนเองนั้นไม่ธรรมดา พากันมามากกว่า 20 คน มีทั้งรถตู้ รถกระบะ รวม 5 คัน และเมื่อมาลงตรวจในร้าน นำไฟฉายมาส่องลูกค้า มาขอดูบัตรประชาชนของลูกค้า มองว่าไม่สมควรและไม่เหมาะสม เพราะเราเป็นร้านอาหาร เนื่องจากร้านเป็นแค่ร้านอาหารธรรมดาไม่ใช่เป็นผับเป็นบาร์ที่จะต้องมาตรวจบัตรประชาชน แต่เราก็ไม่เถียงเพราะเราไม่รู้จะสู้กับคนมีศรียังไง

ทางด้าน นายพุฒิพงษ์ อายุ 33 ปี เจ้าของร้านดังกล่าว เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิด เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวัน และก็มีการตรวจสอบและยืนยันว่าบุคคลในคลิปเสียงนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ท่านผู้กำกับ สภ.พระนครศรีอยุธยาทราบเรื่องแล้ว ท่านให้ข้อมูลว่ามีคำสั่งด่วน ตั้งกรรมการสอบตำรวจท่านนี้แล้ว แต่หลังจากที่ตนเองได้ไปร้องเรียนก็มีความรู้สึกเหมือนถูกกลั่นแกล้ง เนื่องจากมีการนำกำลังเจ้าหน้าที่ 20 – 30 นาย มาลงตรวจที่ร้าน

โดยให้เหตุผลว่าเป็นการประชาสัมพันธ์ ตนเองมองว่าการประชาสัมพันธ์ไม่จำเป็นต้องนำกำลังมามากมายขนาดนี้และก็มาขอตรวจสอบบัตรประชาชนของลูกค้าในร้าน ทำให้ลูกค้าของแตกตื่นและตกใจ และไม่กล้ามานั่งที่ร้านอาหารอีก

ทำให้ช่วงนี้ร้านของตนเอง ลูกค้าหดหายไป เนื่องจากมีเจ้าที่หน้าที่มาลงตรวจบ่อยทำให้เป็นการริทรอนสิทธิลูกค้าจนไม่มีใครอยากมานั่ง เหตุการณ์ดังกล่าวที่ตนเองนำลงไปไปโพสต์ลงโซเชียลก็แค่อยากจะถามว่าทำแบบนี้ได้เหรอ ร้านตนเองไม่ได้ทำผิดอะไรก็นำกำลังมาตรวจค้นร้านแบบนี้

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า หลังจากทราบเรื่อง ผู้เสียหายได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 จึงได้ลงนามคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยันหากกระทำผิดจริงก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของขบวนการกฎหมาย ระเบียบวินัยของข้าราชการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *