1 ในล้านเด้อ! ฮือฮาทั้งอำเภอ แม่ยายใจป้ำ พาอดีตลูกเขยชาวลาว หอบสินสอด แห่ขันหมาก สู่ขอเมียใหม่ อายุห่าง 7 ปี ไม่เป็นอุปสรรค เปิดใจฟังดูแปลกแต่ก็เป็นจริง
กรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กในชื่อเหยี่ยวข่าว โพสต์คลิปภาพและข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ประวัติศาสตร์แห่ง อ.นายูง จ.อุดรธานี แม่เฒ่าเก่าใจป้ำ แถมยังใจดี พาลูกเขยเก่าไปสู่ขอเมียใหม่มี 1 ในล้านเด้อ…พี่น้อง โดยเหตุการณ์ในงานวิวาห์ครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา สร้างความสนุสนาน ยินดี ได้รับคำชื่นชม และยินดีกันทั้งหมู่บ้าน เพราะแม่ยายถือขันหมาก นำหน้าขบวนรถแห่ เปิดเพลงยอดฮิต “สวยขยี้ใจ” ของ “บุ๊ค ศุภกาญจน์” ไปขอเมียใหม่ ให้อดีตลูกเขย
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.นายูง จ.อุดรธานี พบกับ น.ส.นิด (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี อดีตแม่ยาย นายบอย (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ชาว สปป.ลาว และ น.ส.ต่าย (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี ภรรยาคนใหม่ของนายบอย และเพื่อนบ้าน กำลังนั่งล้อมวงกินส้มตำ และพูดคุยกันถึงงานวิวาห์ที่ผ่านมา 2 วัน
ทุกคนต่างมีความยินดีและดีใจ ที่นายบอยและน.ส.ต่าย ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างถูกต้องตามประเพณี เป็นเรื่องที่โด่งดังไปทั่วอ.นายูง ที่ไม่เคยมีมาก่อน ในเรื่องที่แม่ยายและพ่อตาจัดขบวนขันหมาก ไปสู่ขอเมียใหม่ให้กับอดีตลูกเขย
ซึ่งฟังดูแล้วมันก็เป็นเรื่องที่แปลกแต่มันก็เป็นจริง เพราะมันต้องมีเหตุผลในเรื่องราวที่เกิดขึ้น และคนก็อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งอดีตแม่ยาย ลูกเขย และภรรยาคนใหม่ของลูกเขย ต่างเต็มใจเปิดเผยเรื่องราวได้บางส่วน
น.ส.ต่าย และนายบอย ต่างโชว์สลับกันหอมแก้มกัน และก้มกราบตัก น.ส.นิด อดีตแม่ยายที่เป็นธุระจัดงานวิวาห์ให้ ซึ่งน.ส.นิด อดีตแม่ยายนายบอย ก็ให้พรทั้งคู่ ให้ครองรักกันจนแก่เฒ่า และรับทั้ง 2 เป็นลูกชายและสะใภ้ นับตั้งแต่วันเข้าพิธีแต่งงานกันด้วย แถมนายบอยยังร้องเพลง “สวยขยี้ใจ” ของ “บุ๊คศุภกาญจน์” เพื่อสื่อให้รู้ว่ารักน้องต่าย เมียคนใหม่ มากเพียงใด
น.ส.นิด เปิดเผยว่า หลังจากนายบอย อดีตลูกเขย ซึ่งเป็นชาว สปป.ลาว อยู่กินกับลูกสาวตนมานับ 10 ปี จนมีลูกชายวัย 8 ขวบ 1 คน ลูกเขยเป็นคนขยันทำมาหากิน รับจ้างกรีดยาง ตัดปาล์ม หาเงินมาจุลเจือครอบครัวช่วยพ่อตา หนักเอาเบาสู้ จนเก็บเงินปลูกบ้านได้ 1 หลัง ที่สำคัญเขาเป็นคนดี ตลอดเวลาที่เขามาอยู่ด้วย เขาไม่เคยเห็นเขาดุด่าทำร้ายลูกสาว หรือคนในครอบครัวเลย
ทำให้รักเขาเหมือนลูกชาย ส่วนเขาก็รักเราเหมือนแม่ และรักสามีของตนเหมือนพ่อ เพราะเขาเป็นคนพลัดถิ่น ไม่มีญาติพี่น้องอยู่ในเมืองไทยเลย ไม่ใช่แต่ในครอบครัวเราที่รักและเอ็นดูเขา คนในหมู่บ้านโนนทองก็มีแต่รัก เพราะความขยันทำงานและยินดีที่ตนและสามีไปสู่ขอเมียใหม่ให้กับเขา ซึ่งเป็นแม่ม่ายลูก 2 ที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน
“กระทั่งเมื่อประมาณเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา ลูกสาวและลูกเขยแยกทางกัน ลูกสาวตนเป็นคนขอแยกทาง เพราะไปพบรักใหม่ ลูกเขยตนก็ไม่ว่าอะไร และหอบผ้ามาขออาศัยอยู่ที่บ้านแม่ยาย และบอกว่าไม่มีที่ไป ขออาศัยอยู่กับตนสักระยะ ตนก็ยินดี ในเมื่อเขาอยู่ด้วยกันไม่ได้ เราเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องให้โอกาสและคำปรึกษา
กระทั่งเขามาพบรักกับน้องต่ายได้ประมาณ 1 เดือนเศษ เขาก็มาบอกตนและสามีตนว่า จะเก็บเงินไปสู่ขอน้องต่าย โดยให้ตนและสามีเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ ตนและสามีก็ยินดี เพราะเมียใหม่เขาก็แยกทางกับสามีเก่านานแล้ว ที่สำคัญเขาก็เป็นคนดี และขยันทำมาหากินเช่นกัน พวกเขาทั้ง 2 จะได้เติมความรักที่ขาดหายให้กันเต็มเปี่ยมเสียที” น.ส.นิด กล่าว
ด้าน นายบอย อดีตลูกเขย เปิดเผยว่า ตนเป็นชาวเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สปป.ลาว พบรักกับอดีตภรรยาที่กทม. แล้วมาอยู่กินฉันสามีภรรยาที่นี่ประมาณ 10 ปี ตนรักภรรยามาก แต่หลังจากเรา 2 คนไปด้วยกันไม่ได้
เมื่อ3 เดือนที่ผ่านมา ตนก็มาขออาศัยอยู่ที่บ้านอดีตพ่อตาแม่ยาย ที่ตนรักและเคารพเหมือนพ่อแม่แท้ๆ เพื่อขอทำงานเก็บเงินช่วยอดีตภรรยาส่งเสียเลี้ยงดูลูก ที่เขาเป็นคนดูแล และเราก็จากกันด้วยดี ไม่มีเรื่องตบตีทำร้ายกัน ถึงแม้เขาจะขอแยกทาง เพื่อไปมีครอบครัวกับชายคนใหม่ก็ตาม ในใจตนเจ็บปวดทรมานมาก แต่ก็ต้องอดทน เพราะตนเป็นลูกผู้ชาย
นายบอย กล่าวต่อว่า กระทั่งเมื่อประมาณ 2 เดือน ที่ผ่านมา หลังจากแยกทางกับภรรยา เพื่อนตนก็ติดต่อให้รู้จักกับต่ายผ่านทางเฟชบุ๊ก เราเลยคุยกันและเข้าใจกัน ต่างคนต่างมาเติมความรักที่ขาดหายไปให้เต็มและรักเขามาก เพราะเขาเป็นผู้หญิงที่เข้ากับตนได้เต็มร้อย แม้ว่าเขาจะเป็นสตรีมือ 2 ก็ตาม
และรักเขาแบบเต็ม 200 เลย เพราะรักมากจึงให้คะแนนเต็ม 200 คนเราอยู่กันได้รักกันได้ ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน หัดเรียนรู้สิ่งไหนที่เขาชอบเราก็ทำ หากไม่ชอบเราก็ไม่ทำ ต้องขอขอบคุณอดีตพ่อตาแม่ยาย ที่เป็นธุระมาขอเมียใหม่ให้ตน และตนก็รักพวกเขาเหมือนพ่อแม่แท้ๆเช่นกัน
“ส่วนเมียคนใหม่ถึงแม้ว่าอายุจะห่างกันถึง 7 ปี ไม่ได้เป็นอุปสรรคเลย เงินค่าสินสอดที่ไปสู่ขอ 5 หมื่นบาท และเลี้ยงแขกที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน รวมแล้วหมดเงินเกือบ 1 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินเก็บของผมที่รับจ้างกรีดยาง ตัดปาล์มในสวน วันละ 3-4 แห่ง เพื่อนำมาจัดงานแต่งงานใหม่ในครั้งนี้” นายบอย กล่าว
ด้าน น.ส.ต่าย ภรรยาคนปัจจุบัน เล่าว่า ตนแยกทางกับสามีเก่ามา 3 ปี มีลูกสาว 8 ขวบ 1 คน ลูกชายวัย 15 ปี 1 คน และเป็นคนที่กางร่มให้สามีใหม่ตน ตอนที่แห่ขันหมากมาสู่ขอที่บ้าน ตนกับบอยเข้ากันได้ดี เพราะทั้ง 2 คนผ่านมรสุมรักกันมา แต่ไม่เหมือนกันที่อดีตสามีตนติดยา จึงทำให้ครอบครัวแตกแยก เพื่อนของบอยเป็นคนติดต่อให้เราคบกัน จนได้แต่งงานกันตามประเพณี และมาเติมสิ่งที่ขาดหายไปให้กันจนเต็ม
ยอมรับว่ารักเขามาก เพราะเขาเป็นลูกผู้ชาย แบบฉบับที่ตนชอบอยู่แล้ว คือขยันทำมาหากิน หนักเอาเบาสู้ ไม่ตบตีลูกเมีย และที่สำคัญเขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ต้องขอขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะแม่นิด และสามีแม่นิด รวมทั้งเพื่อนของเขา ที่ทำให้เรา 2 คนได้มีวันนี้