อีกหนึ่งคู่รักที่น่ารักมากๆระหว่าง “ณัฐ ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง” และหวานใจชาวเกาหลีที่เพิ่งเปิดตัวไม่นาน เราจะเห็นโมเมนต์มุ้งมิ้งๆของพวกเขาอยู่บ่อยครั้งผ่านโซเชียล รักครั้งนี้เป็นรักทางไกลแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใด
โดยล่าสุดหนุ่มณัฐได้เปิดใจบอกว่า รักทางไกลของคู่ตนไม่ต้องมีอะไรให้น่าเป็นห่วงเลย แฟนสาวเป็นคนสบายๆไม่ชอบเที่ยวหรือไปไหน วันหยุดก็อยู่บ้านอ่านหนังสือ
นอกจากนี้เผย ตนทำงานเจอแต่หญิงสวยๆทุกวัน แฟนสาวก็หึงบ้าง ตนเองก็ทำตัวดีไม่ไปฟอลใครในไอจี ไม่กดไลค์หรือคอมเมนต์ใครเยอะ
“ณัฐ ณัฐรัฐ” อยากเป็นตัวอย่างให้ผู้ชาย มีแฟนต้องกล้าเปิดตัว หวานใจคิดบวกถูกเมนต์แรง แฟนหรือป้า บอกหน้าแก่ตั้งแต่เด็กแล้ว มีอารมณ์บ้างแต่ไม่ซีเรียส ลั่นข้ามเฟรนด์โซน จะจนจะอ้วนก็อยู่ข้างๆ กันเสมอ เรื่องแต่งต้องแพลนอยู่แล้ว
เปิดตัวไม่โสดไปหมาดๆ สำหรับนักแสดงหนุ่ม “ณัฐ ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง” ที่เพิ่งเปิดตัวหวานใจชาวเกาหลีใต้ แต่ไม่วายเจอดรามา หลังแฟนสาวถูกชาวเน็ตแซะแรงว่านี่แฟนหรือป้า บางคอมเมนต์ก็บอกว่าเหมือนแม่กับลูก ล่าสุดณัฐรัฐได้เปิดใจถึงเรื่องนี้
“เปิดตัวก็ฟีดแบ็กดีครับ มันเป็นวาเลนไทน์ด้วย ตอนนั้นเราก็อยู่กันคนละประเทศ เราก็อยากจะให้เขามั่นใจ เพราะว่าเขาก็คิดว่าหรือจริงๆ แล้วเราอาจจะมีคนอื่นแอบอยู่เต็มไปหมดก็ได้ เราถึงไม่ได้ลงโซเชียล ถ้าเขาคิดแบบนี้เราก็ควรจะเปิด แล้วเราก็อยากจะเป็นตัวอย่างให้ผู้ชายทุกคนด้วยว่ามีแฟนแล้วต้องกล้าเปิด”
เผยหวานใจคิดบวก ถูกคอมเมนต์แรง แฟนหรือป้า บอกหน้าแก่ตั้งแต่เด็กแล้ว
“คือเราก็ไม่ได้คิดนะว่าจะมีอะไรแบบนี้ แต่ว่าโชคดีที่แฟนผมเขาเฉยๆ มาก เขาหัวเราะขำด้วย เขาก็บอกว่าหน้าแก่ตั้งแต่เด็กแล้ว อย่าไปซีเรียส เขาก็คิดบวก คือมันก็ไม่ได้มีอะไร คือมันเริ่มจากคอมเมนต์แรก เขาก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเลย เขาก็แค่ถามว่าแฟนอายุมากกว่าเหรอคะ คือก็ไม่ได้อะไรนะ เพราะเขาก็ฟอลโลว์เราอยู่ด้วย ผมก็บอกว่าอ๋อผม 34 แฟนผม 33 ครับ คอมเมนต์นี้แหละก็กลายเป็นว่าคนก็เริ่มไปคอมเมนต์ด่าคนนั้น ว่าป้า อายุเขาสองคนรวมกันยังไม่เท่าป้าเลย เขาก็อันฟอลโลว์ผมไป แล้วก็ลบคอมเมนต์หนีไป
เราก็รู้สึกผิดนะ ว่าเราลงรูปไม่ดีหรือเปล่า ผมไม่ใส่ฟีลเตอร์อะไรเลย เป็นผู้ชายมันก็ไม่ใส่ฟีลเตอร์อยู่แล้ว เราก็ลงดิบๆ ไปอย่างงั้น เราก็เลยคิดว่าผิดหรือเปล่า เลยลงใหม่ แล้วพอลงใหม่ ก็มีคอมเมนต์ดีหมดนะ แต่มีอันนึงที่บอกว่า นึกว่าแม่ลูกกัน พระเอกลูกครึ่งเกาหลี ก็งงนะหมายความว่ายังไง บางอันมันก็แรงไปที่บอกว่าป้าหรือแฟน แต่เราก็ไม่เคยไปใช้อารมณ์นะ ผมก็แค่ตอบว่าอ๋อผม 34 แฟน 33 แล้วทัวร์ก็ไปลงเขา
แฟนเขาก็อาจจะโกรธนิดนึง เพราะว่าไม่ใช่ว่าเขาอ่านไม่ออกเขาก็กด translate คอมเมนต์ แต่เขาก็เห็น แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเท่าไหร่ ก็กลายเป็นว่าคนคอมเมนต์กันเยอะเลย แต่ก็กลายเป็นมองว่าคนก็สนใจเราเรื่องนี้ แล้วก็มาให้กำลังใจเยอะมาก ก็เลยบอกเขาไปว่ายูดูดิคนชมเยอะเลย”
เมินเป็นแค่คอมเมนต์ที่อยู่หลังคีย์บอร์ดเท่านั้น
“คือพันคอมเมนต์มันอาจจะมี 3 คอมเมนต์ที่มันไม่ดี แล้ว 3 คอมเมนต์น่ะ ถ้าเขาเจอเราเดินสวนทางกันในถนน เขาก็คงจะไม่เดินมาพูดแบบนี้กับเรา มันก็เป็นคนที่อยู่หลังคีย์บอร์ด เขาอาจจะเครียดอะไรอยู่ก็พิมพ์อะไรมา แต่มันก็มีข้อดีอย่างหนึ่งนะ เห็นบางคนเข้ามาคอมเมนต์ว่า เออ คนนี้ไปคอมเมนต์บูลลี่แบบนี้มาหลายคนแล้ว เขาโดนแบบนี้ไปก็อาจจะดีต่อสังคมเผื่อบางคนเขาจะคิดมากอะไรตรงนี้
ถามว่าผมไม่ได้ใส่ใจ ผมมองภาพรวมมากกว่า เพราะว่ามันก็มีคอมเมนต์ที่ดีเยอะมาก เราจะมาใส่ใจแค่นี้แล้ว ไปลืมภาพรวมทำไม แฟนเขาดีใจมากเขาไม่แคร์ ตรงนั้นเลย เขาบอกว่าผู้หญิงในเมืองไทยจะได้รู้แล้วว่าเธอเป็นของฉัน”
ข้ามเฟรนด์โซน จะจนจะอ้วนก็อยู่ข้างๆ กัน
“จริงๆ รู้จักกันมาตั้งแต่มหาวิทยาลัย คือคบกันมาเป็นเพื่อนกันก่อนนานมากแล้วแหละ แล้วเขาก็ไปเกาหลี บางทีเขาก็กลับมาไทยบ้าง มาเที่ยวกับเพื่อนบ้าง มากับบริษัทบ้าง อย่างบริษัทเขามีทริปประจำปีของบริษัท เขาก็บอกว่าเมืองไทยคุ้มที่สุดนะ เพราะเขาอยากมาเจอเรา แล้วเราเห็นว่าแม่ก็ชอบเขาด้วย เราดูเหมือนว่าเขาเป็นคนที่จะไม่ทิ้งเราไปไหนไม่ว่าเราจะจนจะอ้วนจะอะไรเขาก็ยังอยู่ข้างๆ เราเป็นกำลังใจให้เราตลอด เราไม่รู้สึกเครียดหรืออะไรเลย
ไม่รู้เหมือนกันว่ากี่ปี คือเมื่อวานเรายังคุยกันอยู่เลยว่าไม่รู้เหมือนกันว่ากี่ปี พัฒนาจากเป็นเพื่อน เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมก็ไม่รู้ คือที่เกาหลีเขาจะค่อนข้างซีเรียสว่าวันคบจะต้องนับมาเลย แล้วเราดันไม่ได้นับ ก็ว่าจะกลับไปดูรูปไปหาว่าวันเดี๋ยวรู้วันเมื่อไหร่จะบอก แต่ก็หลายปีแล้วล่ะ”
ครั้งแรกก็ชอบ โควิดไม่ได้เจอหน้า 2 ปี
“เอาจริงๆ เจอครั้งแรกมันก็ชอบ แต่ถ้าจะรักกันเราคิดว่ามันเป็นความรักแต่มันอาจจะยังไม่ใช่ เพราะว่าเรายังไม่รู้จักตัวตนเขาเลย มันก็คือค่อยๆ พัฒนากันแล้วก็ค่อยๆ รู้จักกัน อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้เจอกันบ่อย แล้วช่วงโควิดคือไม่ได้เจอ 2 ปีเลย ผมว่าอย่างน้อยก็น่าจะ 3-4 ปีแล้ว ถามว่าใครขอเป็นแฟนก่อน คือมันไม่ได้พูดเรื่องแบบนี้ มันค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป (มันเป็นแฟนกันไปเอง?) มันเป็นแบบนั้นจริงๆ”
เรื่องแต่งต้องแพลนอยู่แล้ว
“ก็ต้องคิดหนัก คือเขาคิดเพราะว่าเขาอายุ 33 แล้ว คือผู้หญิงในช่วง 30 ถึง 40 เขาจะคิด แต่ผู้ชาย 30 ถึง 40 มันยังไม่ค่อยคิด มันมีเรื่องอื่นให้คิด แต่เราก็เข้าใจ เพราะฉะนั้นมันก็ต้องมีแพลนอยู่แล้วล่ะสักวัน พี่อ้วน รังสิตเขาก็ปูทางไว้แล้วว่ามีแฟนเกาหลี เราไม่ได้ปรึกษาอะไรเขา เราก็ติดตาม แล้วแฟนก็ติดตามมะม่วง (แฟนอ้วน) ด้วย ก็ดูโอเคนะ วันนึงเราอาจจะทำ YouTube แบบนี้ก็ได้ เพราะว่าก็ดูเหมือนคนสนใจนะ ลง TikTok คนก็ชอบดู ผมลงเยอะๆ ตอนแรกก็คิดว่าทุกคนจะหายไป คือคนกลับชอบเลย เปิดตัวแล้วกลายเป็นดี อย่างละครก็ติดต่อมาสองเรื่อง รู้อย่างนี้ลงรูปคู่แฟนตั้งนานแล้ว (หัวเราะ)”
