เรื่องราวที่ดูเกิดขึ้นได้ยากนี้ กลับเกิดขึ้นในชีวิตจริงของหญิงสาวชาวจีนรายหนึ่ง เนื่องจากในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2547 ศาลแขวงหนานเจียง เมืองปาจง มณฑลเสฉวน ได้พิจารณาคดีหย่าร้างระหว่างภรรยาชื่อ เยว่ หยูฮวา และสามีของเธอชื่อ จ้าว หมิงจาง ซึ่งทั้งคู่อบู่ด้วยกันมานานถึง 18 ปี แต่เหตุผลที่ภรรยาตัดสินใจหย่าร้างกับสามีเพราะว่า ตัวภรรยาเชื่อว่าสามีนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว
จากการรายงานระบุว่า หมิงจางเป็นผู้ชายที่ซื่อสัตย์เสมอ และทำงานอย่างขยันขันแข็ง ในปี พ.ศ.2546 หมิงจางจึงตัดสินใจออกจากบ้านไปเมืองซีอานเพื่อทำงานหารายได้ เนื่องจากว่า ลูกสาวของหมิงจางและหยูฮวาได้เข้าเรียนในโรงเรียนเทคโนโลยี ซึ่งมีค่าเล่าเรียนที่ค่อนข้างสูง
จนกระทั่ง เดือนกันยายน พ.ศ.2546 ขณะทำงาน หมิงจางบอกเพื่อนร่วมงานว่า เขาต้องการไปเดินเล่น แต่แล้วเขาก็ไม่กลับมาอีกเลย ทางครอบครัวจึงแจ้งตำรวจตามหา เพียงไม่กี่วันต่อมา ตำรวจก็ค้นพบศพของชายในสภาพเน่าเปื่อยภาพในรถบรรทุก และมีการยืนยันว่าคือ หมิงจาง
หยูฮวา ทราบเรื่องดังกล่าว ก็รีบขอยืมเงินจากคนอื่นเดินทางไปที่ซีอาน เธอถึงกับเป็นลมเมื่อเห็นศพของสามี จากนั้นก็จำเป็นต้องยืมเงินและขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างเพื่อฝังร่างสามีของเธอ หลังจากที่ หมิงจางเสียชีวิต ครอบครัวก็ตกอยู่ภายใต้ความยากจนมากยิ่งขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่นาน หยูฮวาก็ได้พบและตกหลุมรักกับช่างไม้ในท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เธอและลูกสาวเริ่มจะทำใจได้ จู่ ๆ กลางดึกคืนหนึ่งก็มีคนมาเคาะประตู และเธอแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเปิดไปพบกับจางหมิง ตัวเป็น ๆ ทว่าสถานการณ์ในตอนั้นมันน่าเศร้าและอึดอัดใจเหลือเกิน เมื่อคนสามคนเผชิญหน้ากัน คือ หยูฮวา หมิงจาง และช่างไม้
ความจริงแล้วหมิงจางยังไม่เสียชีวิต ศพที่หยูฮวาจัดพิธีให้และนำกลับมาขึ้นแท่นบูชาที่บ้านนั้น ไม่ใช่ร่างของหมิงจาง แต่เป็นเพราะเขาหลงทาง จึงตระเวนไปทั่วซีอานและสถานที่ใกล้เคียงหลายแห่งเพื่อหาเลี้ยงชีพ เป็นเวลานานถึง 4 เดือน จนถูกสันนิษฐานว่าเสียชีวิตแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อบรรดาญาติ เพื่อนฝูง และชาวบ้านได้ทราบเรื่องที่นายหมิงจางกลับมา หลายคนแนะนำให้หยูฮวากลับไปหาหมิงจาง เพื่อเห็นแก่ลูก ๆ ของเธอ เนื่องจากเธอและช่างไม้ไม่ได้จดทะเบียนแต่งงานกัน แต่หลังใช้เวลาอยู่ 5 เดือน ทางด้านหยูฮวากลับรู้สึกว่าชีวิตกับสามีที่ เสียชีวิตไปแล้วและฟื้นคืนชีพ ไม่มีความสุขอีกต่อไป จึงยื่นฟ้องหย่าที่ศาลแขวง แม้จะได้รับเสียงคัดค้านจากสามี ลูก ญาติ และเพื่อนก็ตาม
แต่แล้วเรื่องราวก็พลิกอีกครั้ง เมื่อจู่ ๆ หยูฮวาที่ได้รับการโน้มน้าวใจจากคนใกล้ชิดในทุกวัน ในที่สุดก็ตัดสินใจเพิกถอนคำร้องขอหย่า และชีวิตครอบครัวก็กลับสู่ภาวะปกติ เนื่องจาก หยูฮวาเองก็ตระหนักถึงความรักและความผูกพันที่มีให้กับสามีของเธอที่อยู่ด้วยกันมาเกือบ 20 ปี