นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงถึงความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต หรือ เงินดิจิทัล 10000 ล่าสุด เบื้องต้นยืนยันว่ารัฐบาลจะแจก เงินดิทิทัล 10000 แน่อน แต่จะดำเนินการ เติมเงินให้แก่ประชาชนประมาณเดือน ต.ค.- ธ.ค. 2567
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายที่ตนเองเป็นประธานด้วย และจะสรุปเพื่อนำส่งคณะกรรมการชุดใหญ่อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 10 เม.ย. 2567 ซึ่งจะมีรายละเอียดมากขึ้นในวันนั้น และจะสรุปเรื่อง เงื่อนไขทั้งหมด เงินดิจิทัล ก่อนนำส่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบและเดินหน้า
สำหรับไทม์ไลน์ “เงินดิจิทัล 10000” ตามที่ นายจุลพันธ์ ได้แถลงความคืบหน้าเงินดิติทัลวอลเล็ตไปแล้วเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2567 ระยะเวลา เงินดิจิทัล 10000 ล่าสุด ดังนี้
27 มี.ค. 2567 ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธาน ที่ทำเนียบรัฐบาล
29 มี.ค. 2567 ปิดรับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เช่น ภาควิชาการ ภาคประชาชน กลุ่มหอการค้า กลุ่มสภาอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อนำมาสรุปและประกอบการพิจารณา
10 เม.ย. 2567 ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ เพื่อสรุปรายละเอียดโครงการทั้งหมด ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ
ก.ค.-ก.ย. 2567 เปิดลงทะเบียนร้านค้าและประชาชนเพื่อเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
ต.ค.-ธ.ค. 2567) เติมเงิน 10,000 บาทให้กับประชาชน ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตครั้งแรก
เงื่อนไข “เงินดิจิทัล 10000” เดิมที่เคยที่มีการแถลงสรุปได้แล้ว มีดังนี้
ผู้ที่จะได้เงินดิจิทัลวอลเล็ตจะต้องเป็นคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป
ยกเว้นคนมีรายได้เกิน 70,000 บาทต่อเดือน หรือเงินฝากมากกว่า 5 แสนบาท
เติม เงินดิจิทัล 10000 ให้แก่ คนไทย 50 ล้านคนมี (จากเดิม 54 ล้านคน)
สามารถซื้อของหรือ ใช้ภายในอำเภอตามที่อยู่บนบัตรประชาชน
เงินต้องใช้ครั้งแรกภายใน 6 เดือน
ใช้สำหรับซื้อของอุปโภคบริโภคเท่านั้น ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่นหรือแลกเป็นเงินสดได้
ข้อจำกัดของการใช้เงิน เงินดิจิทัล 10000 คือจะไม่สามารถ
ไม่สามารถซื้อสินค้าออนไลน์ได้
ไม่สามารถซื้อสินค้าอบายมุข เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่
ไม่สามารถซื้อบัตรกำนัล บัตรเงินสด เพชร พลอย ทองคำ อัญมณี
ไม่สามารถนำเงินดิจิทัลไปชำระหนี้ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำมัน
ไม่สามารถใช้เงินดิจิทัล จ่ายค่าเทอมได้
ต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์
สำหรับกลุ่มที่โดนตัดสิทธิ์แน่ๆแล้วคือกลุ่ม คนมีรายได้เกิน 70,000 บาทต่อเดือน หรือเงินฝากมากกว่า 5 แสนบาท