มีโซ่ทองคล้องใจถึง 2 คน แต่ล่าสุด “บิ๊ก ธิติวุฒิ วารุณ” หรือ “บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” ก็ได้ออกมาไลฟ์สดว่า ครอบครัวของเขากับ “แพรวพราว แสงทอง” นักร้องหมอลำชื่อดัง ซึ่งเป็นภรรยาแอบนอกใจ และคนที่เป็นมือที่ 3 ก็เป็นคนใกล้ตัว
ทว่า “แพรวพราว แสงทอง” ก็ได้ออกมาโต้กลับสามี ซึ่งเธอเลือกที่จะไม่พูดอะไรมาก แต่ได้โพสต์ประโยคเด็ดจากหนังสือเล่มหนึ่ง ที่มีข้อความประมาณว่า เธออดทนมาแล้ว 100 ครั้ง แต่พอครั้งที่ 101 เธออดทนไม่ไหว เธอก็กลายเป็นคนใจร้าย
อ่านข่าว : แพรวพราว แสงทอง โต้กลับ บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ หลังโดนแฉนอกใจสามี
วันนี้ไทยนิวส์จะพาไปย้อนดูเส้นทางความรักของ “แพรวพราว แสงทอง” – “บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” ซึ่งคู่นี้เป็นรักต่างวัยที่อายุห่างกันถึง 12 ปี โดยฝ่ายหญิงอายุมากกว่า แต่เมื่อครั้งรักหอมหวานก็ไม่มีอุปสรรคใดๆ
“บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” เคยเล่าใน รายการคุยแซ่บ SHOW ว่า ตนเป็นแฟนคลับแพรวพราว ตอนแรกตนเป็นยูทูบเบอร์ทำคลิปอยู่ที่ต่างประเทศ ฟังเพลง แพรวพราว ทุกวัน และความสวยก็มีส่วนอยู่แล้ว ตอนแรกก็เป็นแฟนคลับธรรมดามากๆ แอดเฟซเพื่อนเต็ม กดติดตาม รู้จักลูกน้อง แพรวพราว ในวงไปบอก แพรวพราว ว่าอยากเป็นเพื่อนในเฟซพี่แพรวพราวรบกวนบอกให้หน่อย และแพรวพราวก็แอดเฟรนด์มา
ด้าน “แพรวพราว” บอกว่า ตนก็งง เพราะเห็นครั้งแรกก็คิดว่าน่าจะเป็นเด็กน้อยอยากรู้จักนักร้องหรือเปล่า ดูเค้าเหมือนเกย์หัวโปก ตอนนั้น บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ เป็นเด็กแล้วชอบหมอลำ ตนเข้าไปส่องก็ไปรับเพื่อนให้ แล้ว บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ก็ขอบคุณ
“ไม่ถึงกับจีบ แต่เค้าจะทักมาตลอด แล้วเริ่มถี่ๆ เราก็เริ่มไปส่องว่าเค้าเป็นชายแท้หรือเปล่า เราคิดว่าเค้าอาจจะอยากร้องเพลงหรือเปล่า มีโพสต์เราอันนึงเค้าแคปมาถามเราว่าเธอเป็นหยัง แต่ก่อนเรียกเราพี่ แต่เรียกว่าเธอมันก็แปลก ก็ไม่ได้คิดไร แต่เค้าจะส่องเราตลอด แคปมาตลอด เป็นอะไรหรอ เหมือนเค้าแสดงความเป็นห่วง เราเริ่มสงสัยว่าเค้าคิดอะไรกับเราหรือเปล่า” แพรวพราว เล่าเสริม
นอกจากนี้ แพรวพราว ยังบอกอีกว่า เราก็ส่องกระจกดูตัวเอง เรา 30 แล้ว เค้า 17 – 18 (ณ ตอนนั้น) จะว่าเราแก่มั้ย คือเรารู้สึกดีแล้วแต่ไม่เคยพูดว่าชอบนะเค้าก็ไม่เคยพูด แล้วแยกกันเค้าก็ไม่ทักมาเลย เราก็คิดว่าเค้าว่าเราขี้เหร่หรือเปล่า จนมืดเค้าทักมา เค้าก็คิดเหมือนเราเหมือนกันว่าจะว่าเค้าเด็กมั้ย
“แล้วเค้าก็เริ่มทัวร์คอนเสิร์ต จังหวะที่เรามีคอนเสิร์ตที่อุดรพอดี เค้าอยู่อุดร เลยถามว่าเธอมาขึ้นคอนเสิร์ตกับฉันมั้ย เค้าก็อยากไป นัดเจอกันก่อนคอนเสิร์ต 1 วัน เพลงคู่เราต้องซ้อม วันนั้นเป็นวันที่เราอยู่ด้วยกัน 2 คนครั้งแรก เค้าเป็นลูกผู้ชายมาก” แพรวพราวเล่า
ก่อนที่ บิ๊ก อธิบายเสริมว่า ไปเปิดโรงแรมเพื่อซ้อม นอนด้วยกันคืนแรก แต่ซ้อมร้องเพลงด้วยกัน ซ้อมกันจนดึกก็นอน
แพรวพราว ต่อให้อีกหน่อยว่า “เค้าถามว่าจะให้นอนตรงไหน เราให้เค้าไปนอนที่เตียงเดี่ยว เราก็นอนตรงเตียงใหญ่ สักพักเค้าลงมานอนกับเรา แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เค้าจับมือเรานอน และ คืนที่ 2 ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะคะ คือแต่ละคนไม่ยอมพูดปากแข็ง ไม่เคยคำว่าคิดถึงหรือรักออกจากปากคนใดคนหนึ่ง”
และในที่สุดก็มาถึงวันที่เปิดใจ ซึ่ง บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ บอกว่า “วันนั้นจบคอนเสิร์ตรีบออกไปหลบ หลบแฟนคลับ ขึ้นโรงแรมคนละรอบ” ส่วนแพรวพราว ไปเจอตู้แช่ไวน์ เค้าพูดสองรอบว่าไม่กินหรอ เราก็ทำไมอยากให้เรากินวะ เหมือนเค้าอยากให้เรากรึ่มหน่อยแล้วพูดออกมาบ้าง
“เราก็ไม่ยอมพูดว่ารู้สึกยังไงกับเค้า แต่เรารู้ว่าคิดยังไงแต่ไม่ยอมพูด วันนั้นนอนคุยกันเค้าบอกว่าเธอจะพูดอะไรก็พูดเถอะจะตี 4 แล้วนะ นี่ก็ไม่ยอมพูด เราบอกเธอจะพูดอะไรก็พูดสิ แต่ก้อพูดกันนั่นแหละ ว่าเธอคิดยังไงกับฉันถามกันเป็นชั่วโมงกว่าจะพูด” แพรวพราวเล่า
ทั้งนี้ทั้งคู่ยังได้เล่าถึงอุปสรรคในการคบกันว่า จะเป็นเรื่องแฟนคลับของฝ่ายชายที่ดูมานานตั้งแต่เด็กๆ ไม่อยากให้มีแฟน อยากให้คงความน่ารักไว้ ส่วนของ แพรวพราว บอกว่า ให้เค้าตัดสินใจเองทุกอย่าง เราแคร์เค้าไม่อยากให้แฟนคลับไปจากเค้า เราไม่ต้องเปิดตัวก็ได้ ตอนแรกก็ยังไม่เปิด เราก็บอกว่าถ้าไปเจอผู้หญิงอื่นที่ดีกว่าไปเลยนะ เพราะเราอายุเยอะแล้ว เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะรักสนุกมั้ย
ตอนที่เริ่มคบกันใหม่ๆ แพรวพราวบอกว่า ความรู้สึกตอนนั้นคือ ไม่ได้หรอก พ่อแม่รับไม่ได้แน่นอน แต่คุยเพราะไม่มีเพื่อนคุย เค้าก็คุยมีสาระดีเป็นผู้ใหญ่ แต่ความกังวลคือกลัวพ่อกับแม่รับไม่ได้