ดู๋-สัญญา เปิดใจ “ครูไอซ์” อยากให้ทุกคนปิดตาเพื่อเปิดใจ รับฟังเรื่องราวถึงแม้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นได้
“ครูไอซ์-ดำเกิง มุ่งธัญญา” ครูตาบอดที่ถูกชื่นชมและพูดถึงอย่างมากในโลกโซเชียลช่วงต้นปีที่ผ่านมา กับความมุ่งมั่นพยายามตลอดชีวิต เรียนจบคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง และฝ่าฟันอุปสรรค ก้าวผ่านอคติต่างๆ เพื่อพิสูจน์ตัวเอง จนได้เป็นคุณครูอย่างที่ฝัน และได้รับรางวัลคุณครูดีเด่นแห่งชาติปี 2560
ครูไอซ์เล่าว่า “ผมตาบอดมาตั้งแต่กำเนิด ถึงแม้ว่าตอนเด็กๆ จะพอเห็นแสงบ้าง แต่ตอนนี้ไม่เห็นแล้ว ทุกวันนี้รู้สึกภูมิใจในตัวเอง ไม่คิดว่าตัวเองจะมีวันนี้ที่มีคนรู้จักเรามากขึ้น และชื่นชมเรามากขนาดนี้ ภูมิใจที่ความพยายามของเรามีคนมองเห็น ขอบคุณตัวเองที่สู้ ที่ไม่หนีปัญหา ปัจจุบันผมเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ที่ รร.สตรีศรีสุริโยทัย สอนได้ 2 ปีกว่าแล้ว ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ผมเคยฝึกสอนมาก่อน พอฝึกเสร็จตอนรอเปิดสอบบรรจุ ก็ตั้งใจที่จะเลือกมาสอนที่โรงเรียนนี้ เพราะชอบบรรยากาศที่นี่ตั้งแต่สมัยมาฝึกสอน”
“ซึ่งตอนเด็กๆ เคยเล่นกับน้อง ก็ทำตัวเป็นครู ก็สนุกดี และเริ่มชัดเจนตอนเรียน ม.ปลายว่าอยากเป็นครู เพราะที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียลที่ผมเรียน จะมีโควต้าเด็กตาบอดปีละ 1-2 คนแล้วก็จะมีรุ่นน้องตาบอดมาให้ช่วยสอน เพราะบางทีตอนเรียนเขาไม่กล้าถามครู พอผมอธิบายเขาเข้าใจ มันทำให้เรามีความสุข รู้สึกภูมิใจ เลยตัดสินใจเลือกเรียนครู โดยผมไม่เคยคิดว่าตัวเองพิการ คือ ผมเกิดมาก็เป็นแบบนี้ เลยไม่โหยหาว่าต้องมองเห็น แล้วที่บ้านก็เลี้ยงดูผมมาแบบเด็กปกติ เลยไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองแปลก แค่รู้ว่าเราต้องพยายามมากกว่าคนอื่น”
“การมองไม่เห็นมันเป็นแค่อุปสรรคหนึ่ง ที่ทำให้เราทำอะไรยากกว่าคนปกติ แต่ผมจะหาวิธีที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ออกมา เช่น ต้องหาวิธีเรียนให้ทันเพื่อนที่เป็นเด็กปกติ และช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด ตั้งแต่ ม.2 ผมจึงฝึกนั่งรถเมล์ไปโรงเรียนเอง การเรียนเราก็ต้องตั้งใจฟังมากๆ ส่วนเอกสารประกอบการเรียนก็จะได้ช้ากว่าเด็กปกติ เพราะต้องรอครูพิเศษทำเป็นอักษรเบรลล์ให้ พอตอนมหาวิทยาลัย ผมติดคณะคุรุศาสตร์ จุฬาฯ ที่บ้านดีใจมาก แต่ก็กังวลด้วย เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่โชคดีที่ชีวิตมหาวิทยาลัยผ่านไปด้วยดี เพื่อนและอาจารย์ทุกคนพร้อมให้ความช่วยเหลือ ”
“ในที่สุดผมก็เรียนจบด้วยเกีรยตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง ตอนสอบบรรจุครูทั่วประเทศปีนั้นมีคนสอบ 870 คน ผมได้ลำดับที่ 4 แรกๆ กับการมาเป็นครูต้องสู้กับกำแพงอคติของคน ช่วงแรกๆ ตั้งแต่เปิดเทอมผมไม่ได้สอนเลย เพราะทางโรงเรียนไม่ออกตารางสอนให้ เพราะไม่มั่นใจให้ผมสอน เนื่องจากมีผู้ปกครองโทรมาที่โรงเรียนว่าทำไมถึงรับครูตาบอดมาสอน แล้วจะสอนเด็กๆ ได้หรือ ตอนนั้นรู้สึกน้อยใจว่าสิ่งที่เราเรียนมา สิ่งที่เราพยายามมาทั้งหมด ทำไมไม่มีใครมองตรงนี้เลย แต่ผมไม่ท้อนะ เพราะยังไม่ได้ใช้ความสามารถอะไรเลย ก็ถูกตัดสินแล้ว”
“ขณะนั่งเศร้าอยู่ ก็มีผู้ปกครองท่านหนึ่งของนักเรียนที่ผมเคยสอนตอนฝึกสอนมาขอบคุณที่ช่วยสอนให้ลูกเกรดดีขึ้น เขาให้กำลังใจผมว่าครูอย่ายอมซิ ครูต้องสู้ จนได้จังหวะที่ครูหัวหน้าหมวดโดนส่งไปอบรม ผมจึงได้โอกาสสอนแทน พอนักเรียนบอกว่าพวกหนูอยากเรียนกับครูไอซ์พอได้ยินผมซึ้งใจมาก เพราะรู้สึกว่ามีคนเห็นค่าเรา
เพื่อนๆ ก็ให้กำลังใจว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ ผมต้องสู้กับปัญหาเอง ถึงตอนนี้เมื่อได้สอนแล้ว ผมจะต้องคิดแผนการสอนมาก่อนทุกครั้งและคอยหาสื่อใหม่ๆ หรือกิจกรรมมาประกอบให้เด็กๆ ได้เรียนอย่างสนุก อยากสอนให้เด็กรักภาษาอังกฤษ แต่เหนืออื่นใดอยากให้เด็กมีน้ำใจ ทำอะไรให้นึกถึงคนอื่น มีเมตตา ส่วนในอนาคตผมก็วางแผนว่าอยากอัดวิดีโอเป็นวิทยากรช่วยฝึกให้กับครูท่านอื่นๆด้วย ผมจึงอยากให้ทุกคนเปิดใจ ผมเปลี่ยนความคิดคนอื่นไม่ได้ แต่สิ่งที่จะสู้ได้คือ เราเอาความสามารถเข้าสู้ แล้วให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์”