จากกรณีวงการบันเทิงสูญเสียอีกหนึ่งตำนาน “เอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร” พระเอกและผู้กำกับชื่อดัง เสียชีวิตในวัย 72 ปี หลังล้มหมดสติในโรงแรมกลางดึก ก่อนถูกหามส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
เผยผลชันสูตร เอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร จากไปอย่างน่าใจหาย
เผยผลชันสูตร เอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร จากไปอย่างน่าใจหาย
คืนก่อนเกิดเหตุ ไพโรจน์ได้ไปนั่งทานอาหารกับกลุ่มเพื่อนสนิทที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.เมืองนครราชสีมา ก่อนจะแยกย้ายกันในช่วงเวลาประมาณตีหนึ่ง และเข้าพักที่โรงแรม
แต่ไม่นานหลังจากนั้น เขาเริ่มมีอาการแน่นหน้าอกเฉียบพลัน ก่อนช็อกและหมดสติ เพื่อนที่อยู่ด้วยรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เรียกรถพยาบาล โดยทีมกู้ชีพเร่งเข้าช่วยเหลือและทำการปั๊มหัวใจทันที ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
โดยล่าสุด เบส บุตรสาวของ เอ๋ ไพโรจน์ เปิดเผยถึงผลชันสูตร ไพโรจน์ สังวริบุตร ว่า “หลอดเลือดหัวใจอุดตัน”
เผยผลชันสูตร เอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร จากไปอย่างน่าใจหาย
แพทย์นำตัวเข้ารักษาในห้อง CCU ศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด พยายามยื้อชีวิตด้วยการใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ แต่ในที่สุด ไพโรจน์ก็จากไปอย่างสงบในเช้ามืดที่ผ่านมามิถุนายน ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวและแฟนคลับทั่วประเทศ
ครอบครัวเตรียมจัดพิธีรดน้ำศพในวันที่ 4 มิถุนายน ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร โดยจะมีการสวดพระอภิธรรมต่อเนื่องตามประเพณี
สำหรับประวัติ ไพโรจน์ สังวริบุตร เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2496 ที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นน้องชายของ จีราภา ปัญจศิลป์ เจ้าของคณะละครวิทยุอัชชาวดี บุตรชายของคารม สังวริบุตร ดาราแห่งคณะละครวิทยุแก้วฟ้า ซึ่งเป็นน้องชายของไพรัช สังวริบุตร(ศิลปินแห่งชาติ) จบการศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ ปวส ช่างอิเล็กทรอนิกส์ และปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกริก
เผยผลชันสูตร เอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร จากไปอย่างน่าใจหาย
เข้าวงการบันเทิงครั้งแรกโดยการเล่นภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ เมื่อตอนยังหนุ่มอายุได้ 20 ปี เรื่อง “โกมินทร์ กุมาร” โดยเล่นเป็นยอดตัวเอกของเรื่องคือ โกมินทร์ กุมาร
แต่ผลงานที่สร้างชื่อเสียง ซึ่งนับว่าเป็นผลงานที่สองในวงการบันเทิง คือภาพยนตร์เรื่อง “วัยอลวน” เมื่ออายุ 21 ปี ในบท “ตั้ม” และได้มีผลงานการแสดงตามมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ภาพยนตร์เรื่อง รักอุตลุด (2520), ชื่นชุลมุน (2521), จำเลยรัก (2521), คู่รัก (2521), หงส์ทอง (2520), สุภาพบุรุษทรนง (2528), ช่างร้ายเหลือ (2527), ผู้ใหญ่ลีกับนางมา (2528) ฯลฯ ในขณะเดียวกันก็ได้สร้างภาพยนตร์ของตัวเองออกมาประมาณ 11-12 เรื่องด้วยกัน