การตัดสินใจส่งบุตรหลานเข้าเรียนพิเศษเพิ่มเติมตามสถาบันต่าง ๆ หรือจ้างติวเตอร์มาสอนตัวต่อตัว ถือเป็นเรื่องปกติที่เด็กนักเรียนสมัยนี้เลือกจะทำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน เนื่องจากพวกเขาอาจไม่เข้าใจบทเรียนในชั้นเรียนทั้งหมด และอาจไม่มีโอกาสได้ถามคุณครูเป็นจำชั้นเรียน
อย่างไรก็ตาม ในการจ้างครูสอนพิเศษนั้น ผู้ปกครองต้องหาข้อมูล และตรวจสอบอย่างระมัดระวัง ในการเลือกคนที่มีความเชี่ยวชาญและทุ่มเท ไม่เช่นนั้น อาจจะเกิดสถานการณ์ที่ทำให้คุณสูญเสียเงิน การเรียนของบุตรหลานไม่ได้ผลดี หรือกรณีที่เลวร้ายกว่านั้นคือ เด็กได้รับบาดแผลทางร่างกายหรือจิตใจได้
ดังเช่นกับเรื่องราวที่เว็บไซต์ต่างประเทศ soha ได้มีการยกตัวอย่างกรณี ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ระบุว่า ลูกสาวของหลี่ เรียนเก่งทุกวิชา ยกเว้นภาษาอังกฤษ เขาจึงจ่ายเงินจ้างครูสอนพิเศษมาสอนลูก แต่หลังจากเรียนไปได้ระยะหนึ่ง คะแนนของลูกไม่เพียงแต่ไม่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังลดลงอีกด้วย สิ่งนี้ทำให้เขาเริ่มเกิดความรู้สึกสงสัยและไม่สบายใจ
นายหลี่จึงแอบติดตั้งกล้องในห้องติวของลูกสาว เพื่อดูว่าครูมีวิธีสอนอย่างไร ขี้เกียจหรือปล่อยปละละเลยหรือไม่ โดยไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นทัศนคติที่แย่มาก ๆ ซึ่งครูสอนพิเศษวิชาภาษาอังกฤษรายนี้ คนนี้มักจะดุด่านักเรียนด้วยคำพูดหยาบคาย มีทัศนคติในการสอนที่ไม่เป็นมืออาชีพ และมักจะพูดเรื่องไร้สาระในระหว่างการสอน สุดท้ายเขาจึงไล่บุคคลนี้ออกทันที
จากเรื่องราวดังกล่าวของนายหลี่ที่ได้ออกมาแชร์อุทาหรณ์ นั่นจึงทำให้ ผู้ปกครองคนอื่น ๆ ยังได้เรียนรู้บทเรียนในการจ้างครูสอนพิเศษมาสอนลูกด้วยว่า ควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้ มีใบรับรองวุฒิการศึกษา โดยเลือกคนที่มีคุณสมบัติและประสบการณ์ ซึ่งนอกเหนือจากข้อกำหนดด้านการศึกษาแล้ว วิธีที่ดีที่สุดคือผู้สอนจะต้องมีสื่อการสอนที่ออกแบบและร่างด้วยตนเอง และสุดท้ายอย่างลืมใส่ใจด้านทัศนคติในการทำงานด้วย